วันศุกร์ที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2552

เยี่ยมเมืองตรัง

หลังจากเล่นน้ำกันนานพอสมควร คุณพ่อก็ให้เตรียมตัวเดินทาง คุณลุงคุ้ง เป็นรองผู้อำนวยการโรงเรียนสภาราชินี 2 อำเภอเมืองตรังให้ไปเยี่ยมด้วย คุณลุงพาไปแวะชมหลายแห่ง อาทิ... บ้านอดีตนายกชวน หลีกภัย สวนสาธารณะพระยารัษฎานุประดิษฐ์มหิศรภักดีก่อนพาไปทานอาหารร้านน่ารักแห่งหนึ่งจำไม่ได้ว่าชื่อร้านอะไร และฝากหมูย่างรสอร่อยไปทานด้วย
ที่บ้านอดีตนายกชวนเปิดเป็นบ้านรับรองต้อนรับทุก ๆ คนมานั่งสนทนากันเรียกว่าเป็นสภากาแฟก็ว่าได้ มีศาลา กาแฟ โอวัลติน น้ำร้อน ให้พร้อม ทานเสร็จล้างเก็บด้วย ภายในบริเวณบ้านปลูกต้นไม้พันธุ์หายากหลายชนิด จำไม่ได้ แต่สดชื่นเหมือนไปฟอกปอด เลี้ยงไก่ฟ้าด้วย แต่ไม่ชอบตอนที่มันตีกันนี่แหละ อากาศข้างนอกร้อน แต่ที่นี่เย็น เด็ก ๆ บอกว่า "ถ้าโลกเรามีต้นไม้เยอะ ๆ อย่างนี้คงไม่เกิดภาวะโลกร้อน ทำไมเขาไม่ปลูกกัน พี่ฟลู๊คเห็นเขาปลูกต้นไม้เตี้ย ๆ ปลูกกันทำไม ไม่เข้าใจ" น้อยเฟรนด์ก็เป็นแม่พลอย "ช่าย...ไม่เข้าใจ" แล้วเด็ก ๆ ก็ชวนคุณแม่ไปปลูกต้นไม้ที่บ้านเชียงใหม่อีก ปลอบคุณแม่ด้วยนะว่าที่มันตายไปแล้วก็ช่างมันเถอะ ให้ปลูกใหม่ (เรื่องมีอยู่ว่า คุณแม่ได้ปลูกสมุนไพรไว้ที่บ้านเชียงใหม่ร้อยกว่าต้น กะว่าจะนำไปขยายพันธุ์ที่สวน แต่ไม่ได้ทำระบบน้ำอัตโนมัติไว้ เพราะช่วงที่ปลูกเป็นหน้าฝน พอมาอยู่กรุงเทพฯ นานวันเข้าไม่ได้กลับ มีอยู่ช่วงหนึ่งคุณพ่อเด็ก ๆ กลับเห็นหญ้ารกก็เลยหาคนมาถางหญ้า ปรากฏว่า ต้นไม้ทุกต้นที่ปลูกไว้แต่ยังเล็กอยู่ถูกฟันราบเป็นหน้ากลองเลย คุณแม่ก็เลยเศร้า แต่ก็พยายามหาตอต้นไม้ เพราะถ้ามันแข็งแรงก็ยังมีโอกาสขึ้น ก็พบบ้าง ก็ช่วยกรุยดิน เอาใบไม้คลุม ใส่น้ำ ใส่ปุ๋ย และหลังจากกลับจากเชียงใหม่ครั้งหลังสุดสิ้นปี 2551 คุณกงกับคุณยายไปที่บ้านบอกว่าหญ้าขึ้นเต็มอีกแล้ว ต้นไม้ตายเกลี้ยงเพราะไม่มีน้ำ แต่ต้นที่คลุมใบไม้อยู่ไม่ตาย คุณแม่ก็ยิ้มออกได้บ้าง แต่สงสารต้นไม้จังมันคงทั้งร้อน ทั้งหิว คิดถึงมันแล้วก็เศร้า เด็ก ๆ เข้าใจ พวกเขาจะบอกทุกครั้งว่าคุณแม่อยากปลูกอะไรเขาจะช่วยปลูก และปลูกให้เยอะกว่าเดิม) ขอบใจมากจ๊ะเด็ก ๆ
สำหรับพระยารัษฎานุระดิษฐ์ เป็นเจ้าเมืองคนแรกของตรังที่นำเอากล้ายางมาจากมลายู ทำให้คนใต้มีรายได้จากการปลูกยางเป็นพืชเศรษฐกิจ เด็ก ๆ ชอบใจในความใหญ่โตของต้นไม้ในสวนสาธารณะแห่งนี้ หินก็ก้อนใหญ่มาก แต่มาสะดุดตรงดอกไม้สีม่วงแต่ถ่ายออกมาเป็นสีน้ำเงิน ถามเหตุผลไปตลอดทาง ลุงคุ้งก็เลยอธิบายว่าบางครั้งการผสมสีของกล้องถ่ายรูปอาจทำตามที่ธรรมชาติมีไม่ได้ เด็ก ๆ ร้อง "อ๋อ" จบข่าว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น